Sponsor Link

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สมัครบัตรเครดิตอย่างไรให้ผ่าน

จากบทความเรื่อง ทำไมสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ถ้าไม่มีตอนนี้ ก็คงจะเหมือนกินข้าวแล้วไม่ได้กินน้ำ ขอออกตัวก่อนเริ่มว่า ผมเองก็ไม่ทราบเป๊ะ ๆ ทั้งหมด ขอสรุปข้อมูลตามที่พอทราบมาเลยก็แล้วกันครับ

ข้อควรทราบเบื้องต้น

ต้องไม่มีประวัติเสียในเครดิตบูโร
ธนาคารจะเคร่งครัดในการพิจารณาจากข้อมูลส่วนนี้ ถ้าท่านเคยมีประวัติค้างชำระติดต่อกันตั้งแต่ 2 งวดขึ้นไป โดยทั่วไปจะพิจารณาเป็น 3 กรณี
·         ค้างชำระ แต่งวดต่อ ๆ มายังชำระหนี้หนี้ต่อเนื่อง (โดยมียอดค้างยกยอดมาอย่างต่อเนื่อง) ธนาคารมักจะให้เกรด B นอกจากช่วงโปรโมชั่นจริง ๆ ถึงจะอนุโลม
·         ค้างชำระ แต่เคลียร์ยอดหนี้ที่ค้างไปหมดแล้ว ธนาคารมักจะให้เกรด A นอกจากบางธนาคารที่เขี้ยวจริง ๆ จึงจะให้ B
·         ค้างชำระ แม้จะเพิ่งเกิดเรื่อง ถ้าไม่มีประวัติว่าเคลียร์ยอดหนี้ค้าง เรื่องราวจะจบลงเท่านี้ ไม่ต้องยื่นสมัครบัตรเครดิตให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมเอกสาร

มีเอกสารและอายุการทำงานตามที่ธนาคารระบุ
ในที่นี้ขอยกตัวอย่างสำหรับพนักงานประจำ เอกสารที่ต้องใช้คือ
1.       ใช้สลิปเงินเดือน
2.       ตัวเลขเงินในบัญชีธนาคารสวย คือ
a.       มีเงินเข้าทุกเดือน อย่างน้อยๆ 6 เดือน
b.      อย่าพรวดพลาดถอนหมดแต่วันต้น ๆ เดือน (ยกเว้นกรณีถอนไปอยู่ในบัญชีเงินฝากประจำ เราสามารถถ่ายสำเนาไปยืนยันได้)
3.       ทำงานประจำมาอย่างน้อย 1 ปี จะนับหลายที่รวมกันก็ได้ แต่ที่ทำงานปัจจุบันต้องมีโทรศัพท์พื้นฐาน (เบอร์บ้าน) ที่สามารถติดต่อได้
4.       มีที่อยู่ที่แน่นอน อย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป และต้องมีโทรศัพท์พื้นฐานที่สามารถติดต่อได้ (บางธนาคารอาจจะไม่มีเงื่อนไขนี้)

เทคนิคพิเศษที่ขอแนะนำ
ผมถือบัตรเครดิตมาหลายใบ ใบแรกคือบัตรเสริม Amex แต่บัตรที่สมัครด้วยเครดิตตัวเองครั้งแรกคือ ธนาคารบัวหลวงที่ขึ้นชื่อว่าอนุมัติยาก (พรรคพวกตะลึงว่าผ่านได้ยังไง) อันนี้จะขอยกตัวอย่างที่ผมเคยทำมาแล้วและเห็นว่าน่าจะมีส่วนช่วย

การทำหนังสืออธิบายรายได้
1.       ในกรณีเราเป็นพนักงานและยังทำงานฟรีแลนซ์  (freelance) ด้วย ควรแยกบัญชีธนาคารสำหรับรับเงินส่วนนี้ต่างหาก และยิ่งถ้ามีหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วยจะยิ่งเป็นสร้างเครดิตรายได้แก่เรา
2.       การมีรายได้หลายทางและต่อเนื่อง รวมทั้งการมีบัญชีเงินออมเงิน (ฝากประจำ) ที่เงินเข้าต่อเนื่อง เราควรทำหนังสือชี้แจงรายได้เพิ่มเข้าไป อธิบายพอเข้าใจว่า รายได้ของเราโดยรวมแล้วเฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่ มีอัตราการออมเดือนละเท่าไหร่ และมีสำเนาการเดินบัญชีแนบประกอบให้เห็น

การแสดงหลักฐานที่อยู่ที่ติดต่อได้กรณีที่อยู่ปัจจุบันไม่ตรงกับบัตรประชาชน
1.       กรณีที่อยู่ปัจจุบันไม่ตรงกับที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (เช่น อยู่กับญาติเพราะใกล้ที่ทำงาน) ถ้าที่อยู่ตามบัตรประชาชนนั้นมีโทรศัพท์บ้าน มีคนอยู่ตลอดที่สามารถยืนยันได้ว่าเราพำนักพักอาศัยอยู่ที่นั่น ก็ควรใช้ที่อยู่ตามบัตรประชาชน (อย่าลืมนัดกันกับคนที่บ้านให้เรียบร้อยก่อนสมัครบัตรเครดิตนะครับ) แล้วเลือกให้ส่งเอกสารต่าง ๆ / ที่อยู่ติดต่อสะดวกเป็นที่ทำงาน
2.       ถ้าไม่เป็นแบบที่ว่าในข้อที่แล้ว ควรแนบสำเนาใบเสร็จรับเงินค่าโทรศัพท์มือถือที่ระบุที่อยู่จัดส่งตามที่อยู่ปัจจุบันของเราไปด้วย  (เราต้องเป็นเจ้าของเบอร์ด้วยนะครับ) และควรเขียนโน้ตหรือทำเอกสารรับรองว่าเราอาศัยอยู่จริงตามเอกสารที่เราแนบไป (เจ้าหน้าที่ไม่ใช่อัจฉริยบุคคลที่จะทราบทันที)

การสร้างเครดิตบูโรที่ดีแต่ตัวเองเพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติ
ปกติโดยทั่วไป บัตรเครดิตที่ได้รับการอนุมัติจะได้วงเงินเริ่มต้นที่ 2 เท่าของรายได้เฉลี่ยในแต่ละเดือน แต่ถ้ามีประวัติการใช้บริการบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลในเครดิตบูโรแล้ว โอกาสที่จะได้รับวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ก็จะเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันถ้าสมัครบัตรเครดิตตอนอายุมาก ๆ (50 ปีขึ้นไป) และไม่เคยมีประวัติเครดิตบูโรเลย บางธนาคารก็อาจจะไม่พิจารณาอนุมัติใบสมัครบัตรเครดิตเลยก็มี

แนวทางการสร้างประวัติเครดิตบูโรอย่างง่ายคือ ควรสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลแล้วผ่อนสินค้าสักชิ้น เลือกที่จำเป็นที่สุด ถ้ามีโปรโมชั่นผ่อน 0% ก็ยิ่งดี (ดูให้ดีก่อนนะครับว่าผ่อน 0% จริงหรือหลอก) ที่แนะนำแบบนี้ก็เพราะ

·         สินเชื่อส่วนบุคคลมักจะอนุมัติง่ายกว่าบัตรเครดิต และรายได้ขั้นต่ำก็ยังต่ำกว่าเกณฑ์รายได้ของผู้สมัครบัตรเครดิต
·         ถ้าตอนสมัครบัตรเครดิตครั้งแรก มีเงินเดือนแค่ปริ่ม ๆ เกือบไม่ผ่านเกณฑ์ แล้วไม่มีประวัติในบูโรเลย ธนาคารอาจจะไม่พิจารณา ในขณะที่เงินเดือนเกือบถึงเกณฑ์ แต่เคยผ่อนอะไรต่อมีอะไรมานานแล้ว (มีทักษะบริหารการเงินได้ดี) และยอดการผ่อนในแต่ละเดือนในปัจจุบันก็ไม่สูงมาก (ไม่มีภาระหนี้มาก) ธนาคารก็มักจะอนุมัติ
·         ถ้าตอนสมัครบัตรเครดิตครั้งแรก แม้มีเงินเดือนเกินเกณฑ์แล้ว แต่อายุมาก หากเทียบกับเงินเดือนที่ควรจะได้ตอนอายุปัจจุบันแล้วยังน้อยอยู่ อาจจะถูกพิจารณาว่างานไม่มีความก้าวหน้า ไม่มีความมั่นคง แต่การมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ก็มีส่วนให้คะแนนการพิจารณาสูงขึ้น

สรุปส่งท้าย

ที่เขียนมา เป็นแนวทางที่ผมเคยทำมา เริ่มต้นตั้งแต่สมัครบัตรเพาเวอร์บายตั้งแต่เงินเดือนยังน้อย ๆ (ซื้อตู้เย็นใหม่ขนาดใหญ่ให้แม่และซื้อคอมพิวเตอร์มือถือ Palm ให้ตัวเอง) อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญคือ อย่าลืมว่า ควรใช้บัตรเครดิตให้เป็นประโยชน์ในการจัดการเงินของตนเอง ไม่ใช่มีบัตรเครดิตเพื่อก่อหนี้หรือสมัครบัตรเครดิตเพราะเงินไม่พอใช้ เพราะการสร้างหนี้ไม่ได้ทำให้มีเงินพอใช้ แต่ทำให้เราได้ใช้เงินตัวเองน้อยลงในอนาคตเพราะเงินของเราบางส่วนจะถูกกันไปเป็นดอกเบี้ยให้คนอื่นนั่นเองครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น