Sponsor Link

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

ประสบการณ์ปิดหนี้บัตรเครดิตด้วยสินเชื่อส่วนบุคคล

จากบทความเรื่อง เทคนิคการปิดหนี้บัตรเครดิตด้วยสินเชื่อบุคคล บางท่านอาจจะยังไม่ค่อยเห็นภาพ มาดูภาคปฏิบัติจริงที่ผมเคยทำ มีทั้งแบบหาดอกเบี้ย 0% และแบบกู้เงินที่มีโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำผ่อนยาว ขั้นตอนก็ง่าย ๆ ครับ


ลองเทคนิคหาเงินก้อนดอกเบี้ย 0% ก่อน
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับยอดหนี้ที่ไม่สูงเกินไปและมีกำลังผ่อนให้จบในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี (แล้วแต่โปรโมชั่น) และต้องเป็นคนหน้าหนา ไม่กลัวว่าใครจะล้อว่าเป็นหนี้ เทคนิคนี้ก็คือใช้โปรโมชั่นผ่อน 0% ให้เกิดประโยชน์ โดยไปหาดูว่า ใครจะซื้อสินค้าที่มีโปรโมชั่นนี้แต่มีกำลังทรัพย์พอที่จะชำระเต็มจำนวนทีเดียว โดยมูลค่าสินค้าต้องมากพอที่จะไปปิดหนี้บัตรได้ จากนั้นก็อาสาตัวไปไปซื้อสินค้าให้กับคนนั้น โดยอาจจะซื้อด้วยบัตรสินเชื่อหรือรูดซื้อด้วยบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นนี้ (คงไม่ต้องสนใจว่ามันจะเป็นผ่อน 0%จริงหรือหลอก) เมื่อเราได้เงินสดจากคนนั้นแล้วก็เอาไปปิดหนี้ที่ต้องการเสีย จากนั้นก็ค่อยมาผ่อนหนี้ตัวใหม่ของเราต่อ ก็เท่ากับว่าเราไม่ต้องรับภาระดอกเบี้ยแล้ว บุคคลที่ว่าก็อาจจะเป็นคนที่ทำงานด้านจัดซื้อในบริษัท ญาติพี่น้องที่รวยหน่อย

กู้เงินที่มีโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำผ่อนยาว

1. รวบรวมยอดหนี้คงเหลือหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหมด และยอดผ่อนแต่ละเดือน ยกตัวอย่างเช่น
- บัตรใบโพธิ์ 46,000 บาท (อัตราดอกเบี้ย 20% ผ่อนเดือนละ 4,600 บาท)
- บัตรเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
19,000 บาท (อัตราดอกเบี้ย 20% ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท)
- บัตรเจ้าแม่ชอปปิ้ง 20,000 บาท (อัตราดอกเบี้ย 20% ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท)
- สินเชื่อเงินคุณอ้อน
21,000 บาท (อัตราดอกเบี้ย 28% ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท)
- สินเชื่อตัวเลือกหนึ่ง 16,000 บาท (อัตราดอกเบี้ย 28% ผ่อนเดือนละ 2,400 บาท)
รวมแล้วก็มีหนี้ค้างประมาณ 122,000 บาท ผ่อนเดือนละ 13,000 บาท

2. ประเมินกำลังทรัพย์
จากข้อ 1 จะเห็นว่า เงินจะหายไปกับการใช้หนี้เดือนละ 13,000 บาทแน่  ดังนั้น

a. ถ้าท่านจ่ายไหว แล้วยังมีเงินเหลือกินเหลือใช้แบบพอประทังตัวเองได้ ไม่มีภาระอะไร แนะนำให้จ่ายตามนี้ และหนี้ท่านจะหมดภายใน 1 ปี และมีดอกเบี้ยประมาณ 12,000 บาทเท่านั้น

b. ถ้าท่านจ่ายไหว และจะจ่ายขั้นต่ำสุดเท่าที่ต่ำได้ แน่นอนว่าท่านจะมีเงินเหลือแต่ละเดือนมากขึ้น เพราะเงินขั้นต่ำจะน้อยลงตามเงินต้นที่ถูกชำระ หนี้ท่านจะหมดภายใน 30 เดือน และมีดอกเบี้ยประมาณ 18,000 บาทเและยังจะมีเงินเหลือแต่ละเดือนมากขึ้นในแต่ละเดือน (ถ้ามีวินัยในการออม)

c. ถ้าท่านจ่ายไหว และจะต้องการใช้บัตรเครดิต (จากวงเงินที่เพิ่มขึ้นหลังชำระขั้นต่ำแล้ว) ถ้าการใช้ที่ว่านี้ สามารถชำระเต็มได้แน่ ๆ แนะนำให้คุณสมัครบัตรใบใหม่ของธนาคารเดียวกัน (เป็นวงเงินรวม แต่แยกบัญชีบัตรมาต่างหาก) ถ้าชำระเต็มมันจะไม่ถูกนำไปคำนวณดอกเบี้ย เพราะการการคำนวณดอกเบี้ยมันมาจากการจ่ายขั้นต่ำมันอยู่ที่บัตรใบเดิม (บางธนาคารอาจจะแยกเป็นวงเงินใหม่ให้ ทั้งนี้ก็แล้วแต่นโยบายของแต่ละธนาคาร) หรืออาจะเปิดเป็นบัตรเสริมให้สามี/ภรรยาทำหน้าที่รูด (แต่ก็หาวิธีควบคุมการรูดให้ดี ๆ นะครับ)

d. ถ้าท่านจ่ายไม่ไหว สูงสุดที่จะจ่ายได้เท่าไหร่ ท่านต้องประเมินตนเอง สมมติสูงสุดที่พอจ่ายได้ประมาณ 5,000 บาท ซึ่งจ่ายแล้วยังมีเงินสำรองเหลือแต่ละเดือนบ้าง เผื่อลูกเจ็บป่วย พรรคพวกแต่งงาน ค่าใช้จ่ายกระทันหัน ก็ต้องหาวิธีปิดหนี้ โปรดดูข้อ 3 (ข้อนี้เป็นกรณีของผม) แน่นอนว่าผมหายใจสะดวกขึ้น แต่หนี้ผมจะหมดภายใน 36 เดือนและมีดอกเบี้ยถึง 51,500 บาทโดยประมาณ ดูเหมือนสูง แต่ถ้าผมเลือกแนวทาง a. แล้ว หากผมต้องการเงินกระทันหัน ผมก็มีแนวโน้มก่อหนี้อยู่ดี (ก็มันไม่มีเงินเหลือเก็บแต่ละเดือน) ผมเลือกการก่อหนี้แบบพอกำหนดอนาคตได้แต่แรกเลยดีกว่า ลดความวุ่นวาย (แต่ละเดือนที่หายใจสะดวกขึ้น ผมก็ต้องเรียนรู้เก็บออมพร้อมๆกับการชำระหนี้ด้วย)

3. หาสินเชื่อที่โปรโมชั่นดี ๆ ด้านดอกเบี้ย และผ่อนนานได้

ก่อนอื่น ขอให้ท่านลองสำรวจดูก่อนว่าท่านมีสินทรัพย์ใดที่พอจะทำให้ท่านลดภาระด้านดอกเบี้ยลงและผ่อนนานได้ ตามที่ผมแนะนำไว้ใน “การกู้เงินปิดหนี้แบบยอดมนุษย์เงินเดือน” แต่ถ้ายังหาไม่ได้ จึงค่อยใช้สินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันตามที่จะกล่าวต่อไป

สำหรับโปรโมชั่นแบบนี้ต้องเช็คดี ๆ นะครับว่าได้อัตราดอกเบี้ยรวมที่ลดลงจริง ๆ ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกตบตาด้วยตัวเลขที่ดูดีแต่แอบบวกค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เข้าไป ซึ่งเป็นกับดักของสินเชื่อส่วนบุคคลที่ต้องระวังไว้

ณ เวลานั้น สินเชื่อที่โดนใจคือ CT Adv (เดาเอาเองนะครับ) โปรฯที่เขาให้คือ กู้ตั้งแต่ 100,000 จะเหลือดอกเบี้ยเพียง 25% และถ้ากู้ตั้งแต่ 125,000 บาทแล้วให้เขาออกเช็คเพื่อไปชำระหนี้บัตรเครดิตโดยตรงตั้งแต่ครึ่งของวงเงินที่ขอกู้ เขาจะลดดอกเบี้ยเหลือ 24% (แต่ถ้าจะปิดหนี้ตัวนี้ก่อน 2 ปี เขาจะคิดดอกเบี้ยย้อนหลังเป็น 28% ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตทันที)

ก็จะเห็นว่าโปรนี้เข้าทางผม ดังนั้นผมจึงขอกู้ 125,000 บาท และให้เขาออกเช็คสำหรับสั่งจ่ายเจ้าของหนี้ (แบบเอายอดพอประมาณให้รวมกันเกินครึ่งก่อน (แล้วที่เหลือแบบเก็บตกค่อยมาถอนเป็นเงินสด ลดดอกแล้วยังลดภาระถือเงินสดไปจ่ายเอง)  เงินที่ได้มาจะถูกหักค่าธรรมเนียมตามจริงไม่มากนัก จะหายไปประมาณ 70 กว่าบาทเท่านั้น (ค่าธรรมเนียมเช็คเครดิตบูโรกับค่าธรรมเนียมอื่นๆ)


ออกเช็คปิดหนี้บัตรใบโพธิ์



ออกเช็คปิดสินเชื่อคุณอ้อน



รับเงินสดเข้าบัญชีในส่วนที่เหลือ สำหรับการเก็บตกหนี้


4. รีบดำเนินการเอาเช็คไปชำระหนี้ให้เร็วที่สุด อย่าลืมว่าธนาคารคิดดอกเบี้ยจากเราทุกวัน และกว่าเช็คจะจบกระบวนการเคลียริ่ง ใช้เวลา 3 – 4 วันเลยทีเดียว (อ่านเรื่อง จ่ายหนี้บัตรเครดิตแบบขั้นต่ำ ให้ดอกเบี้ยน้อยลง ตอนที่ 2 ครับ จะรู้ว่าเขาคำนวณดอกเบี้ยอย่างไร)

5.ดำเนินเผาสะพานการก่อหนี้ซ้ำด้วยการยกเลิกบัตรแบบมีชั้นเชิง
ขั้นตอนนี้ป้องกันตกม้าตายตอนจบ ผมเอาบัตรกดเงินสดมาเจาะรูด้วยตุ๊ดตู่ทันที ท่านอย่าเพิ่งขำนะครับ ถ้าอ่านต่อแล้วท่านอาจจะไม่ขำก็ได้


เผาสะพานการก่อหนี้

เรื่องมีอยู่ว่า หลังเจาะบัตรแล้วผมก็โทรไป call center เพื่อแจ้งยกเลิก เชื่อมั้ยครับว่า เขามีข้อโต้แย้งให้เข้าทางเขาทุกข้อว่าทำไมเราไม่ควรยกเลิก รวมทั้งอ้างว่าถ้ามาสมัครใหม่อาจจะไม่ได้สิทธิประโยชน์เท่าเดิม (อันนี้ผมไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะเท่าที่ผ่านมา สถาบันการเงินต่าง ๆ ก็มีแต่ผ่อนปรนให้เป็นเราก่อหนี้ได้ง่ายขึ้นทั้งนั้น) กว่าเขาจะบอกผมว่ายกเลิกทางโทรศัพท์ไม่ได้ ต้องไปสำนักงานสาขาเท่านั้น ผมก็โดน hard sale ไปหลายดอกเลยทีเดียว ถ้าใครอยากรู้หรืออยากสนุก ลองแกล้งโทรไปยกเลิกดูแล้วอัดเสียงไว้ เอามาแชร์กันฟังหน่อยก็ได้

ดังนั้น เมื่อไปสำนักงานของเขา ผมรีบยื่นบัตรที่เจาะรูแล้วให้เขาทันที เขารีบทำเรื่องยกเลิกให้เลยครับ ราวกับกลัวคนอื่นมาเห็นแล้วเกิดพฤติกรรมเลียนแบบยังไงยังงั้น

หลังจากเสร็จสิ้นการปิดหนี้บัตรต่าง ๆ ด้วยสินเชื่อส่วนบุคคลแล้ว ผมยกเลิกบัตรเครดิตบางรายการ แต่ยังเก็บบัตรเครดิตบางตัวไว้ฟันแต้มเป็นรายได้เสริม ครับ


สำหรับการคำนวณดอกเบี้ยต่าง ๆ สามารถดาวน์โหลดไฟล์ Excel แล้วไปลองปรับตัวเลขกันดู เผื่อเป็นประโยชน์ครับ