Sponsor Link

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การหมุนเงินจากบัตร (เครดิต / สินเชื่อบุคคล) มาทำการค้า


ถ้าเป็นบทความจากที่อื่น อาจจะใช้คำว่า หมุนเงินมาทำธุรกิจหรืออาชีพอิสระ แต่ในแง่ความเป็นจริงแล้ว หนี้จากบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดนั้นมีอัตรดอกเบี้ยสูงถึง 20-28% ต่อปี ในขณะที่การกู้เงินทำธุรกิจจริงๆ ควรจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 7% เท่านั้น แต่แน่นอนว่าสถาบันการเงินจะย่อมปล่อยหนี้ให้เราก็ต่อเมื่อเรามีหลักทรัพย์ค้ำประกันเท่านั้น
ดังนั้นหากจำเป็นต้องเอาบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลมาหมุนมาทำธุรกิจแล้ว ต้องเป็นการค้าขายเท่านั้น โดยที่
  1. ต้องค้าขายได้เร็วและต่อเนื่อง
  2. เก็บเงินสดจากการขายเท่านั้น
  3. ต้องมีกำไรอย่างน้อย 2 เท่าตัว (นอกจากต้นทุนสินค้าแล้ว เราก็ต้องกินต้องใช้)
  4. คนทำค้าขายต้องไม่รักษาฟอร์ม / ตั้งใจทำงาน
ถ้าองค์ประกอบขั้นต้นไม่ได้ คงเจ๊งและมีหนี้ติดตัวเป็นของแถมอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากค้าขายแล้ว ยังมีอีก 1 งานที่มีองค์ประกอบเข้าข่าย แต่ไม่ใช่การทำธุรกิจ นั่นก็คือ การแต่งงาน (ดูใน การแต่งงาน (หนี้) ไม่บาน)


อาชีพอิสระที่ไม่ควรกู้สินเชื่อส่วนบุคคล ก็อย่างเช่น
  1. งานเกษตรกรรม เพราะกว่าพืชผักจะเติบโตใช้เวลาอย่างน้อยเฉลี่ย 2 เดือน และบางครั้งก็ยังถูกพ่อค้าคนกลางขอเครดิต ส่วนกำไรก็อาจจะไม่ถึง 2 เท่า โดยเฉพาะการเช่าที่ทำการเกษตร
  2. ขายเครื่องประดับราคาแพง จริงอยู่ว่าขายได้เงินสด กำไรก็อาจจะถึง 2 เท่าของต้นทุน แต่ใช้เวลานานกว่าจะขายได้แต่ละชิ้น ในขณะที่ค่าเช่าที่ ค่ากินอยู่ต้องจ่ายทุกวัน
  3. ร้านโชว์ห่วย อันนี้เห็นชัดว่า กำไรมันไม่กี่ % เท่านั้น หากไม่มีรายได้อื่นแล้ว และยังขายของได้ไม่หมดใน 1 เดือน ก็ทำนายอนาคตได้ทันทีว่าจะเป็นอย่างไร (ยังไม่นับรวมเรื่องวินัยทางการเงิน)

ลักษณะการหารายได้ที่พออนุโลมให้เป็นหนี้จากบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล  (แต่ต้องมีวินัยในการสะสมเงินสำหรับจ่ายหนี้ตามใบแจ้งหนี้ที่กำลังจะมา) ก็ต้องตามที่กล่าวไว้ ตัวก็อย่างเช่น

  1. อาชีพอิสระที่เป็นกลุ่มซื้อมาแล้วขายไปในเวลาสั้น เช่น ร้านขายอาหาร (ร้านอาหารตามสั่ง ส้มตำข้างถนน กาแฟสดที่อยู่ในแหล่งชุมชนจริง ๆ) อันนั้เห็นชัดว่า คนซื้อกินทุกวัน กำไรก็เห็น ๆ
  2. บริษัทส่วนตัวที่มีงบอยู่แล้ว แต่มีโปรโมชั่นผ่อน 0% แทนที่จะจ่ายทีเดียวก็เก็บเงินสดไว้เผื่อฉุกเฉิน เช่น การจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม
  3. คนออกเงินกู้นอกระบบ (ทำได้จริง แต่กรรมที่ทำไว้จะตามมาสนองในไม่ช้า)

จะหมุนจากบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลดี
จะว่าไปก็ตามความสามารถในการค้าขาย ถ้าสามารถค้าขายที่หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวแล้วสามารถจ่ายได้ครบใน 1-2 เดือนแล้ว การใช้เงินจากบัตรเครดิตก็เหมาะสม (ทั้งนี้ ต้องซื้อวัตถุดิบจากบัตรเครดิตได้และไม่ถูกชาร์ทเพิ่มด้วยนะครับ) แต่ถ้ายาวกว่า 2 เดือนก็ควรเลือกเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล (ดูเพิ่มเติมจาก จะเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลหรือเป็นหนี้บัตรเครดิตดี)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น